ฝ่ายบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานธิบดีสหรัฐฯ ได้ยื่นจดหมายต่อบริษัทเกมในเครือ Tencent Holdings Ltd. บริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ให้เปิดใช้งานการตรวจสอบโปรโตคอลเพื่อตรวจหาซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย
แหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อกล่าวว่า คณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐอเมริกาได้ส่งจดหมายถึงบริษัทต่าง ๆ ได้แก่ Epic Games Inc., Riot Games และอื่น ๆ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับระเบียบการรักษาความปลอดภัยในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน
Tencent บริษัทโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากจีนเป็นเจ้าของบริษัท Riot Games ผู้สร้างเกม MOBA ยอดนิยมอย่าง League of Legends โดยถือหุ้นทั้งหมด 100% และถือหุ้นของบริษัท Epic Games ผู้สร้างเกม Fortnite เป็นจำนวน 40% ตัวแทนจากทั้งสองบริษัทปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นและไม่ได้ตอบกลับจดหมายในทันที ในขณะที่ตัวแทนของคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศปฏิเสธที่จะชี้แจงรายละเอียดในทุกกรณี
การเร่งตรวจสอบจากกรณีดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายรักษาความปลอดภัยของทรัมป์ เพื่อป้องกันการขยายฐานธุรกิจของบริษัทจีนในสหรัฐฯ อันเป็นที่มาของความตึงเครียดครั้งใหม่ต่อรัฐบาลปักกิ่ง และในแคมเปญหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งปี 2020 ทรัมป์ที่ประกาศลงสู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่สองได้ประกาศว่าจะเจรจาทำข้อการค้าที่สหรัฐฯ เป็นฝ่ายชนะจีน ทำให้หุ้นของ Tencent ที่มีความสัมพันธ์ในด้านธุรกิจอย่างยาวนานกับสหรัฐฯ ร่วงลงมากถึง 2.8% โดยผลกำไรในปีนี้จะเหลือที่ประมาณ 36%
ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาทรัมป์ได้สั่งแบนบริษัท ByteDance Ltd., เจ้าของแอปยอดฮิต Tiktok ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะทำการปิดกั้นแอป Wechat จาก Tencent ในเร็ว ๆ นี้
คณะกรรมการด้านการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ หรือ “ไซเฟียส” (CFIUS) ได้ตรวจสอบการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศของธุรกิจอเมริกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคงของประเทศ อำนาจของ CFIUS ครอบคลุมตั้งแต่การตรวจสอบการเข้าซื้อกิจการทั้งหมด ตลอดจนการลงทุนที่ไม่มีการควบคุม โดย CFIUS มีข้อเสนอแนะให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปิดกั้นหรือยุติข้อตกลงกับบริษัทจีน เพื่อที่ข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกันจะได้ไม่รั่วไหลไปยังเซิฟเวอร์จีน
Tencent เจ้าของเกมส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมในอเมริกา
Tencent มีบริษัทเกมในเครือกว่าอีก 300 บริษัท ทำให้บริษัทเกมแห่งนี้เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ในปี 2554 Tencent จ่ายเงินจำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อหุ้น 93% ของ Riot Games และครอบครองหุ้นทั้งหมดในอีกสี่ปีต่อมา
การลงทุนด้านเกมในสหรัฐฯ ของ Tencent ทั้ง Riot Games, Epic Games และ Activision Blizzard อาจเสี่ยงต่อการถูกบังคับให้ขายธุรกิจในสหรัฐฯ เช่นเดียวกับกรณีของแอป Tiktok จาก ByteDance โดยคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ ได้เปิดการไต่สวนในประเด็นความมั่นคงแห่งชาติ ประเมินได้ว่าทรัพย์สินในสหรัฐฯ ของ Tencent อาจมีมูลค่าอย่างน้อย 22,000 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็น 6-7% ของยอดขายและผลกำไร
ในปี 2020 Tencent ได้ลงทุน 330 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้นของ Epic Games นอกจากนั้น Tencent ยังเป็นเจ้าของหุ้นเล็ก ๆ ของบริษัท Activision Blizzard Inc. ซึ่งเป็นผู้สร้างเกม Call of duty ด้วย
ความร้าวฉานระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะทำให้อุตสาหกรรมเกมพบกับจุดจบหรือไม่?
ในเดือนสิงหาคม 2563 ทรัมป์ได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯ และบริษัทในสหรัฐฯ ทำธุรกิจกับ WeChat ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Tencent และบริษัท ByteDance เจ้าของแอปที่กำลังเป็นกระแสทั่วโลกอย่าง Tiktok โดยขอบเขตของข้อจำกัดเหล่านี้ถูกประกาศอย่างเป็นทางการโดยกระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 20 กันยายน 2563
ล่าสุด ByteDance กำลังเจรจากับ Oracle Corp. เพื่อกำหนดข้อตกลงใหม่สำหรับบรรเทาความกังวลของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับประเด็นความปลอดภัยของผู้ใช้แอปในอเมริกา
ทรัมป์ได้ยกระดับการต่อสู้ทางเศรษฐกิจและการเมืองกับรัฐบาลปักกิ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่อเป็นเรียกคะแนนความนิยมก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่กำลังจะถึงนี้ นอกจากนั้นเขายังกล่าวโทษว่าจีนเป็นต้นตอของโรคระบาดโควิด-19 อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นิวยอร์กไทม์วิเคราะห์ว่าถึงความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ และจีนจะส่อแววร้าวฉาน ทั้งสองชาติมหาอำนาจนี้ก็มีเศรษฐกิจที่โยงใยและพึ่งพากันอยู่ และรายรับของวงการอีสปอร์ตก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว การคว่ำบาตรบริษัทเกมอย่างสิ้นเชิงจึงเป็นไปได้ยาก หรือหากเป็นไปได้ก็ไม่ส่งผลดีกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในทุกกรณี